00
ชม.
:
00
นาที
:
00
วินาที

1290

790บ.

เตรียมพบโปรพิเศษ

รับแคตตาล็อก
Item added Item updated Item removed No more products on stock You entered wrong value.

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

การออกแบบแสง

แสงเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรม แม้ว่ามักถูกมองข้าม แต่กลับมีบทบาทสำคัญในการกำหนดการรับรู้ของเราเกี่ยวกับพื้นที่ แสงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือให้ความสว่าง แต่ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์และสร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่สถาปัตยกรรมได้ บทความนี้จะสำรวจว่าแสงสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการออกแบบเพื่อสร้างอารมณ์ (Emotional Design) ได้อย่างไร โดยช่วยเสริมความงามและสร้างบรรยากาศที่ต้องการให้กับสถานที่ต่างๆ

พลังของแสงในสถาปัตยกรรม

การออกแบบแสงในสถาปัตยกรรมไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการมองเห็น แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่สามารถกระตุ้นอารมณ์และส่งผลต่อการรับรู้และปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานกับพื้นที่ แสงสามารถเน้นรายละเอียดทางสถาปัตยกรรม สร้างความลึกและมิติ รวมถึงกำหนดบรรยากาศของสถานที่

แนวคิดการออกแบบที่สื่อถึงอารมณ์ (Emotional Design) ในการใช้แสง

Emotional Design คือแนวคิดที่มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างผู้ใช้งานกับพื้นที่ เป็นการออกแบบพื้นที่ให้สามารถกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกเฉพาะ เช่น ความสงบ ความตื่นเต้น หรือความอบอุ่น ในบริบทของการออกแบบแสง แนวคิดนี้หมายถึงการใช้แสงเพื่อสร้างบรรยากาศที่ต้องการ

การสร้างอารมณ์ด้วยแสง

  • สีและความเข้มของแสง มีผลต่ออารมณ์ของพื้นที่เป็นอย่างมาก
    • แสงโทนอุ่น (Warm Light) ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
    • แสงโทนเย็น (Cool Light) ช่วยให้เกิดความรู้สึกเป็นทางการและมืออาชีพมากขึ้น
    • แสงสลัว (Dim Lighting) ช่วยสร้างความรู้สึกใกล้ชิดและผ่อนคลาย
    • แสงสว่างจ้า (Bright Lighting) กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมและความตื่นตัว

การเน้นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม

แสงสามารถใช้เพื่อเน้นคุณลักษณะทางสถาปัตยกรรมและรายละเอียดเฉพาะ โดยการวางตำแหน่งของแสงอย่างมีกลยุทธ์ นักออกแบบสามารถดึงความสนใจไปยังองค์ประกอบสำคัญของอาคาร เช่น โค้งประตูที่สวยงาม หรือศิลปะตกแต่งภายใน นอกจากช่วยเพิ่มความน่าสนใจของพื้นที่แล้ว ยังทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีพลังและน่าดึงดูด

การสร้างความลึกและมิติ

การเล่นกับแสงและเงาสามารถสร้างความลึกและมิติให้กับพื้นที่ได้ นักออกแบบสามารถใช้ความต่างของแสงและเงาเพื่อทำให้พื้นที่ดูใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความรู้สึกของความลึกลับและความน่าสนใจ ทำให้พื้นที่มีความโดดเด่น

ตัวอย่างกรณีศึกษา: การออกแบบแสงที่สร้างอารมณ์

พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ เมืองบิลเบา (Guggenheim Museum, Bilbao)

พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ในเมืองบิลเบาที่ออกแบบโดย Frank Gehry เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการใช้แสงเพื่อเพิ่มอารมณ์ของสถาปัตยกรรม พื้นผิวไทเทเนียมของอาคารเมื่อได้รับแสงในเวลากลางคืนจะเกิดเอฟเฟกต์ระยิบระยับ ทำให้ตัวอาคารดูมีพลังและมีมิติ ภายในตัวอาคาร การออกแบบแสงสร้างการเล่นของแสงและเงา ทำให้เกิดความรู้สึกของความยิ่งใหญ่และความน่าอัศจรรย์

เดอะไฮไลน์ นิวยอร์ก (The High Line, New York)

The High Line ซึ่งเป็นทางรถไฟเก่าที่ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะในนิวยอร์ก เป็นตัวอย่างของการใช้แสงเพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบและมีเสน่ห์ การออกแบบแสงส่องสว่างอย่างละเอียดอ่อนในเวลากลางคืนช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนในใจกลางเมืองที่วุ่นวาย

สรุป

การออกแบบแสงในสถาปัตยกรรมเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการออกแบบที่เน้นอารมณ์ นักออกแบบสามารถสร้างพื้นที่ที่กระตุ้นความรู้สึกผ่านการเลือกใช้สี ความเข้ม และการจัดวางแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง การเน้นองค์ประกอบของอาคาร หรือการเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ แสงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดประสบการณ์ของผู้ใช้งานต่อสถาปัตยกรรม

โดยการเข้าใจและนำหลักการของการออกแบบแสงมาใช้ นักออกแบบสามารถสร้างพื้นที่ที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้คนได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้แสงไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือสำหรับให้ความสว่าง แต่เป็นองค์ประกอบหลักที่ช่วยกำหนดบรรยากาศและความงามของสถาปัตยกรรม

Strong know-how of LED and in-house lighting design & engineering support team
บริษัท เดอะ มิชชั่น วัน จำกัด
The Mission One Co., Ltd.
310/935 ซอยสรงประภา 14 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105556053102
ติดตามเราได้ที่
Copyright © 2025
DECENTO All rights reserved.
magnifiercross
LINE LOGO SVG @Decento